Blog สาระน่ารู้
เทคโนโลยี H265 คืออะไร?
H.265 หรืออีกชื่อหนึ่งที่เรียกว่า HEVC ย่อมาจาก High Effciency Video Coding Video Coding คือเทคโนโลยี่การบีบอัด vdo รูปแบบใหม่ ซึ่งจะทำให้บันทึกไฟล์จากกล้องวงจรปิดมีขนาดเล็กลงมาก (ไฟล์เล็กลงเกิน 2เท่า) ถูกพัฒนาต่อยอดมาจาก H.264 โดยหน่วยงานI TU-T เป็นผู้รับรองมาตรฐานเครื่องบันทึกกล้องวงจรปิด เป็นอุปกรณ์ที่ใช้จัดเก็บภาพจากกล้องในรูปแบบของไฟล์วีดีโอ ซึ่งเป็นข้อมูลที่มีขนาดใหญ่มาก และกินพื้นที่ในการจัดเก็บของฮาร์ดิกส์ จึงจำเป็นต้องคิดค้นวิธีการต่าง ๆ เพื่อใช้ในการลดขนาดของข้อมูลภาพลง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บ และลดความต้องการใช้ Bandwidth (ซึ่งเป็นทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด) ของระบบในการส่งข้อมูลลง โดยยังคงรักษาคุณภาพของภาพที่ได้ให้ดีที่สุด หรือใกล้เคียงกับต้นฉบับให้มากที่สุด และสิ่งที่จะช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ก็คือ เทคโนโลยีการบีบอัดไฟล์ หรือ Video Compression นั้นเอง
ทำไมต้องมีเทคโนโลยีการบีบอัดไฟล์
ดังที่กล่าวไปข้างต้นขนาดไฟล์ของกล้องวงจรปิด มีขนาดที่ค่อยข้างใหญ่มาก ทำให้ใช้พื้นที่ในการจับเก็บค่อยข้างเยอะ เทคโนโลยีบีบอัดไฟล์ จะช่วยลดขนาดไฟล์วีดีโอให้เล็กลง แต่คุณภาพวีดีโอยังเหมือนเดิมหรือใกล้เคียงต้นฉบับมากที่สุดอยู่ ทำให้เหลือพื้นที่ฮาร์ดิกส์เยอะขึ้น และเมื่อมีพื้นที่เหลือมากขึ้นก็จะสามารถจัดเก็บดูไฟล์วีดีโอย้อนหลังได้มากขึ้นเช่นกัน
ข้อดีของ H265
- ทำให้คุณภาพของภาพดีขึ้นกว่าเดิมมาก
- ความละเอียดของภาพ ภาพคมชัดขึ้น สามารถ
เพิ่มความละเอียดได้มากถึง 8K
- ใช้พื้นที่ในการจัดเก็บข้อมูลน้อยลง
- ช่วยประหยัดแบนด์วิธทำให้การดูกล้องออนไลน์
ลื่นขึ้น
- เก็บไฟล์วีดีโอย้อนหลังวันได้มากขึ้น เปรียบเทียบ H264 ในเครื่องบันทึกทั่วไป หากต้องการดูย้อนหลัง 30วัน ต้องใช้ขนาดหน่วยความจำ 2TB H265 ใช้แค่ 1TB
ไขข้อสงสัยกับกฏหมายใหม่ PDPA
" ติดกล้องวงจรปิดที่บ้านแล้ว จะมีปัญหาอะไรตามมาไหม?😱 ต้องปฏิบัติตัวอย่างไร?? กลัวว่าจะทำผิดกฏหมาย ⛔"
มีลูกค้าหลายคนและหลายท่านโทรเข้ามาถาม กังวลเกี่ยวกับกฏหมาย หรือ พรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล PDPA วันนี้ทางร้านจะมาตอบคำถามนี้ที่ใครหลายคนกำลังสงสัย👍
กฏหมาย PDPA หรือ พรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับระบบ CCTV หรือกล้องวงจรปิด เราขอตอบคำถามแบบอธิบายเข้าใจง่ายๆ ในการติดตั้งกล้องวงจรตามบ้าน หรือที่พักอาศัย ร้านค้า ร้านขายของชำ ไม่ต้องทำหรือต้องกังวลอะไร เพราะไม่เข้าข่ายในการทำผิดกฏหมาย PDPA เนื่องจากการติดตั้งกล้องตามบ้าน ที่พักอาศัย ร้านค้า ร้านขายของชำ ก็เพื่อป้องกันอาชญากรรม ใช้ป้องกันผลประโยชน์ตัวเอง และไม่ได้นำเอาวีดีโอที่บันทึกในกล้องวงจรนำไปแสวงหาผลกำไรใดๆ ดังนั้นจึงไม่เข้าข่ายความผิดใดๆ และไม่จำเป็นต้องติดสติ๊กเก้อแจ้งให้โจรหรือใครคนไหนต้องทราบว่าบริเวณที่ติดตั้งกล้องวงจรปิด (ยกเว้นแต่สำนักงาน ห้าง หรือพื้นที่สาธารณะ ที่จำเป็นต้องติดสติ๊กเก้อแจ้งให้ทราบว่าบริเวรนั้นติดตั้งกล้องวงจรปิด)
ดังนั้นจึงสบายใจและหายห่วงกังวน หากต้องการจะติดตั้งกล้องวงจรปิด หรือได้ติดตั้งไปแล้ว หากจุดที่ติดตั้งนั้นไม่ได้ไปละเมิดบุคคลอื่น ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะทำผิดกฏหมายหรือจะมีใครมาจับปรับและเอาผิดเราได้ ขอให้ลูกค้าทุกท่านสบายใจ หากเกิดปัญหาหรือมีข้อสงสัยใดๆ สามารถแอดไลน์หรือโทรสอบถามมายังทางร้านได้เลย
👉 " สินค้าดี มีคุณภาพ บริการประทับใจ"👍
พรบ.ข้อมูลส่วนบุคคล หรือ PDPA
พ.ร.บ.ข้อมูลส่วนบุคคล สิ่งที่คนติดกล้องวงจรปิดต้องรู้
นอกจากเทคโนโลยีเกี่ยวกับกล้องวงจรปิดแล้ว ยังมีอีกหนึ่งสิ่งที่มีความจำเป็นต้องรู้สำหรับใครที่ติดตั้งกล้องวงจร นั่นก็คือ พ.ร.บ. ข้อมูลส่วนบุคคล หรือ PDPA
PDPA หรือ พ.ร.บ. ข้อมูลส่วนบุคคล คืออะไร
PDPA หรือ พ.ร.บ. ข้อมูลส่วนบุคคล คือ กฎหมายที่คุ้มครองสิทธิข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ชื่อ-นามสกุล เลขประจำตัวประชาชน ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ วันเกิด อีเมล การศึกษา เพศ อาชีพ รูปถ่าย ข้อมูลทางการเงิน โดยกฎหมายนี้จะควบคุมไม่ให้ข้อมูลอัตโนมัติส่วนบุคคลของเราถูกนำไปใช้โดยที่เราไม่ได้ยินยอม เช่น นำข้อมูลของเราไปขายต่อ โดยจะเริ่มบังคับใช้อย่างจริงจังในวันที่ 1 มิถุนายน 2565 เป็นต้นไป
กล้องวงจรปิด CCTV เกี่ยวกับ PDPA อย่างไร
กล้องวงจรปิด CCTV มีหน้าที่รักษาความปลอดภัยด้วยการจับภาพเหตุการณ์ต่างๆ ซึ่งในส่วนของภาพของบุคคลที่ถูกถ่ายนั้น ถือว่าเป็นข้อมูลส่วนบุคคลในรูปของข้อมูลทางชีวภาพที่ PDPA หรือ พ.ร.บ. ข้อมูลส่วนบุคคลคุ้มครอง ทำให้เราจำเป็นต้องขออนุญาตบุคคลอื่นก่อนถ่าย ในทางปฏิบัติเราคงไม่สามารถให้ทุกคนเซ็นชื่อลงนามอนุญาตได้ทุกครั้ง แต่เราสามารถขอความยินยอมได้โดยอัตโนมัติจากการติดประกาศหรือสติกเกอร์ที่แจ้งให้บุคคลที่จะเข้ามาในสถานที่ทราบว่าเรามีการบันทึกและติดตั้งกล้องวงจรปิด CCTV
บทลงโทษถ้าเราไม่ปฏิบัติตามร้ายแรงแค่ไหน
การที่จะให้ทุกคนปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด จำเป็นต้องมีบทลงโทษที่จริงจังโดย
ความผิดทางแพ่ง ชดใช้ตามความเสียหายจริง หรือสูงสุดไม่เกิน 2 เท่าของค่าเสียหายที่แท้จริง
ความผิดโทษทางอาญา จำคุกสูงสุดไม่เกิน 1 ปีหรือปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ความผิดโทษทางปกครอง ปรับสูงสุดไม่เกิน 5 ล้านบาท
"กรณีบ้านหรือที่พักส่วนบุคคลจำเป็นต้องติดสติกเกอร์หรือไม่ จะผิดกฎหมายหรือเปล่า???"
ถ้าเราติดกล้องวงจรปิด CCTV ในบ้านเพื่อรักษาความปลอดภัยในกับตัวเองและคนในบ้าน ถือเป็นการใช้ข้อมูลเพื่อประโยชน์ส่วนตน ในพื้นที่ส่วนบุคคลถือว่าไม่ผิดกฎหมาย ไม่จำเป็นต้องแจ้งว่าเราติดกล้องวงจรปิด เราต้องเป็นต้องติดสติกเกอร์แจ้งก็ต่อเมื่อพื้นที่นั้นเป็นพื้นที่สาธารณะ ชุมชน ร้านค้าหรือพื้นที่ใดก็ตามที่มีการบริหารจัดการแบบองค์กร
ประโยชน์ของการติดตั้งกล้องวงจรปิด
ทำใมเราถึงต้องติดตั้งกล้องวงจรปิด CCTV
- เพื่อตรวจสอบความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้น หากมีเหตุการณ์ที่น่าสงสัยและอาจเกิดอันตรายต่อตัวเราและผู้อื่น เราสามารถตรวจสอบความผิดสังเกต หรือพฤติกรรมต่างๆ รอบข้างจากกล้องวงจรปิดได้
- ป้องกันด้านอาชญากรรม เมื่อโจร หรือผู้ร้าย เห็นว่ามีกล้องวงจรปิดถูกติดตั้งอยู่ในสถานที่นั้นๆ ก็ทำให้รู้สึกผิด ไม่กล้ากระทำการร้ายหรือขโมยของ เพราะเกรงว่าจะมีการบันทึกภาพวิดีโอเก็บไว้เป็นหลักฐานได้
- ควบคุมความประพฤติของพนักงานในองค์กร ห้างร้าน หรือสำนักงาน ได้เป็นอย่างดี เช่น ที่หน้าเคาน์เตอร์การเงิน แคชเชียร์ ทุกๆ ห้างร้านส่วนมากมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดหันไปทิศทางที่มีการเก็บเงินสด ซึ่งสามารถทำให้เจ้าของกิจการเห็นถึงพฤติกรรมของพนักงานได้ หรือสามารถจับตาดูได้ว่าพนักงานมีการลักขโมยเกิดขึ้นหรือไหม
- สามารถดูความเป็นอยู่ของเด็ก และคนแก่คนชราในบ้านได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าคุณอยู่ที่ใดก็ตาม ก็สามารถดูลูก หลาน คุณปู่ คุณย่า คุณตา คุณยาย คนไข้ ในเวลาที่เราไม่ได้อยู่ที่บ้าน สามารถตรวจสอบความปลอดภัยได้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง หรือดูแม่บ้านเวลาทำงานได้เช่นกันผ่านทางมือถือ แทบเล็ท โน๊ตบุ๊ค และดูได้ทุกที่ทุกเวลาทั่วโลกทำให้เราไม่พลาดในทุกความเคลื่อนไหว
- สามารถเป็นหลักฐานสำคัญต่อเจ้าหน้าที่ เช่น หากเกิดเหตุการณ์รถชน หรือความเสียหายเกิดขึ้น กล้องวงจรปิดที่จุดเกิดเหตุ สามารถเป็นหลักฐานสำคัญต่อเจ้าพนักงาน หรือใช้ติดตามคนร้ายว่าเป็นใคร บุคคลิกเป็นอย่างไร หนีหรือเดินทางไปทิศทางใด ถือได้ว่าเป็นพยานหลักฐานที่สำคัญในการดำเนินคดี
- ตรวจสอบความปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นภายในบ้าน สำนักงาน ห้างร้าน หรือโรงงาน สามารถตรวจจับความผิดสังเกตที่เกิตขึ้น และสามารถตรวจสอบความปลอดภัยได้แม้คุณจะอยู่นอกบ้าน สำนักงาน ห้างร้าน หรือโรงงานก็ตาม เพียงแค่มีมือถือ คุณก็สามารถตรวจสอบผ่านระบบทางมือถือของคุณได้ทุกสถานที่ทุกเวลา อุ่นใจหายห่วง
Hilook กับ Hikvision ในสิ่งที่หลายๆคนสงสัย
HiLook กับ Hikvision แบรนด์ที่คุ้นหูคุ้นตาของใครหลายๆคนที่เคยติดตั้งกล้องวงจรปิดที่บ้าน หลาย ๆ คนคงเริ่มคุ้นชื่อกับสองยี่ห้อนี้กันเป็นอย่างดี แต่ก็มีอีกหลายๆคนที่ไม่เคยรู้เลยว่าสองแบรนด์นี้จริงๆแล้วผลิตมาจากสถานที่และเป็นบริษัทเดียวกัน
"แต่... ทำใมราคาถึงต่างกัน?? คุณภาพเป็นอย่างไร??"
กล้องวงจรปิด Hilook นั้นเป็นแบรนด์น้องใหม่ โดยแตกแบรนด์มาจาก Hikvision ซึ่งสินค้าผลิตมาจากโรงงานเดียวกัน เพื่อเน้นตลาดล่าง ราคาถูก!! เข้าถึง และ เป็นเจ้าของได้ง่ายกว่าของ Hikvision ซึ่งจะเน้นทำตลาดบนซะเป็นส่วนใหญ่
" แล้วทำใมราคาถึงต่างกัน "
นอกจากการบันทึกเหตุการณ์ไว้ดูย้อนหลังและดูออนไลน์แล้ว กล้องวงจรปิดยังมีระบบฟังก์ชั่นต่างๆที่มีอยู่ทั้งในตัวกล้องและเครื่องบันทึก เช่น โหมด WDR จะใช้มากในสภาพย้อนแสง การตรวจจับใบหน้า ทะเบียนรถ ความเคลื่อนไหว ตรวจวัดอุณหภูมิ ตรวจจับความร้อนและระบบเซ็นเซอร์ต่างๆ สิ่งเหล่านี้ที่ทำให้ราคากล้องสองแบรนด์นี้แตกต่างกันซึ่งในแบรนด์ Hilook จะมีฟังก์ชั่นและระบบพื้นฐานของการใช้งานทั่วๆไป จึงทำให้ในด้านราคาถูกกว่าแบรนด์หลักคือ Hikvision ที่มาพร้อมกับฟังก์ชั่นบางอย่างที่ทำให้การใช้งานมีคุณภาพมากกว่ากล้องทั่วๆไป
ด้วยเหตุนี้ สินค้า หลาย ๆ อย่าง รวมถึงหน้าตาของกล้องก็จะมีหน้าตาคล้าย ๆ กันอยู่บ้าง และยังสามารถใช้แอพฯในการดูผ่านมือถือ ร่วมกัน หรือ สลับกันก็สามารถใช้ได้อย่างไม่มีปัญหา ซึ่งกล้องของ Hi-Look ก็ยังคงใช้เทคโนโลยีเดียวกับของ Hikvision แทบพูดได้เลยว่าใช้ firmware และสถาบัตยกรรมเดียวกันเลยก็ว่าได้
" แล้วคุณภาพหล่ะ??? "
ในส่วนของคุณภาพก็คงพูดได้คำเดียวว่าไม่ต่างกัน เพราะผลิตมาจากโรงงานเดียวกัน (ในส่วนตัวแอดมินความต่างเดียวที่เห็นได้ชัดก็แค่เมนูด้านใน) แต่คงพูดได้ไม่เต็มปากว่าคุณภาพที่ได้จะเหมือนกัน ก็เพราะ Hikvision มีเทคโนโลยี่บางอย่างที่ถูกจับยัดเข้าไปทำให้ภาพมีคุณภาพดีกว่ากล้องทั่วๆไปนั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ราคาของ Hikvision มีราคาสูงกว่ากล้องในเกรดคุณภาพเดียวกันตามท้องตลาดทั่วๆไป
Color Vu
เทคโนโลยี ColorVu (ภาพสี 24ชม.)คืออะไร
เทคโนโลยี ColorVu เป็นเทคโนโลยีที่เพิ่มประสิทธิภาพให้กล้องสร้างวิดีโอที่มีสีสันในสภาพแวดล้อมที่มีแสงน้อยมาก เป็นมุมมองที่มีสีสันจากม่านตาขนาดใหญ่เซ็นเซอร์ประสิทธิภาพสูงและแสงเพิ่มเติม อีกทั้งเป็นเทคโนโลยีการถ่ายภาพที่มีสีสันที่ช่วยให้กล้องแสดงผลวิดีโอที่สดใดตลอด 24ชั่วโมง ถึงแม้ในสภาพแวดล้อมที่ไม่มีแสงก็ตาม
หากพูดถึงกล้องที่ใช้เทคโนโลยี ColorVu ความสามารถในกล้องคือ จะจับรายละเอียดในการให้แสงสว่างต่ำมาจากสองนวัตกรรมที่เฉพาะเจาะจงในเทคโนโลยีฮาร์ดแวร์ ตัวเลนส์ชั้นสูงและตัวเซ็นเซอร์ความไวสูง ตรงกันข้ามกับเลนส์ธรรมดา เลนส์ ColorVu จะมีการติดตั้งซุปเปอร์รูัรับแสงถึง F1.0 ซึ่งจะช่วยให้แสงมากขึ้นที่จะเข้าสู่เลนส์เพื่อให้ความสว่างการถ่ายภาพสามารถเพิ่มขึ้นด้วย
AcuSense
เทคโนโลยี Hikvision AcuSense คืออะไร ทำอะไรได้บ้าง ดีอย่างไร
ด้วยการเพิ่มความชาญฉลาดให้กับกล้องและเครื่องบันทึกวิดีโอยอดนิยมของ Hikvision เทคโนโลยี AcuSense ทำให้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้เป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับระบบรักษาความปลอดภัยที่สามารถเข้าถึงได้และชาญฉลาด!
เมื่อเทียบกับระบบเตือนภัยที่ใช้เซ็นเซอร์ทั่วไประบบเฝ้าระวังที่ใช้กล้องมีข้อดีหลายประการ: ความสามารถในการดูเหตุการณ์แบบเรียลไทม์การรับข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับเหตุการณ์เหล่านั้นและการให้หลักฐานที่มั่นคงและแม่นยำสำหรับการบังคับใช้กฎหมาย
Deep Learning Algorithm
ตามความหมายของชื่อ เทคโนโลยี Hikvision AcuSense ช่วยให้การตรวจจับฮาร์ดแวร์การรักษาความปลอดภัยมีความแม่นยำด้วยอัลกอริธึมการเรียนรู้เชิงลึกเทคโนโลยี AcuSense จะแยกแยะผู้คนและยานพาหนะจากเป้าหมายเคลื่อนที่อื่น ๆ
Human and Vehicle Intrusion
ความกังวลที่พบมากที่สุดในการป้องกันอาณาเขตโดยรอบคือการล่วงล้ำและบุกรุกยานพาหนะ AcuSense ช่วยให้คุณมุ่งเน้นไปที่เหตุการณ์เหล่านี้ได้สองวิธี: การเตือนภัยจะเริ่มทำงานก็ต่อเมื่อเกิดประเภทการบุกรุกที่ตั้งไว้ล่วงหน้าและวิดีโอที่เกี่ยวข้องจะถูกจัดเรียงตามหมวดหมู่เพื่อให้ค้นหาได้ง่ายขึ้นด้วยเทคโนโลยี ACUSENSE มาพร้อมกับฟังก์ชั่นที่มีประสิทธิภาพ
Accurate Alarm for Human and Vehicle
คุณสามารถโฟกัสไปที่สัญญาณเตือนที่เกิดจากมนุษย์และยานพาหนะในขณะที่สัญญาณเตือนที่ผิดพลาดที่เกิดจากสัตว์ขนาดเล็กหรือวัตถุอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องจะลดลงอย่างมาก ตอนนี้คุณสามารถเพลิดเพลินกับฟังก์ชั่นอัจฉริยะนี้ด้วย VCA หรือการตรวจจับการเคลื่อนไหว
Visual and Auditory Warning
วิธีการตอบสนองในสถานที่และการยับยั้งโดยใช้คำเตือนที่มองเห็นได้และปรับแต่งได้เพื่อเพิ่มการป้องกันอีกชั้นหนึ่ง นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่นเสียงสองทาง
Search Targets Quickly by Type
คลิปวิดีโอจัดเรียงตามหมวดหมู่ของมนุษย์และยานพาหนะและการจัดประเภทวัตถุช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการค้นหา